ถั่งเช่ากับโรคเก๊าท์ (Hyperuricemia)
ทุกวันนี้ หลายคนต้องทนเจ็บป่วยกับโรคภัยต่างๆที่มาเยือน ซึ่งก่อความไม่สบายทั้งใจและกายกับหลายๆคน หนึ่งในนั้นก็คือโรคเก๊าท์ รวมทั้งโรครูมาตอย และโรคข้ออักเสบ
เราลองมาสำรวจ-ตรวจนิ้วเท้า ของเราเองกันดู ว่ามีโป่งพอง บวมแดง กดแล้วเจ็บ มองดู บิดเกไม่สวยงาม เวลาสวมรองเท้าสาน โปร่งหรือ ใส่ส้นสูงไม่ค่อยถนัด เรามีปัญหาเหล่านี้กันบ้างมั๊ย
เก๊าท์ (Gout) เป็นโรคข้ออักเสบที่ทำให้มีอาการปวด แสบร้อน บวม แดงตามข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย อาจเกิดขึ้นกับข้อต่อเดียวหรือหลายข้อต่อพร้อมกันได้
อาการของโรคเก๊าท์ มักปวดอย่างรุนแรง ตามข้อต่อ พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะนิ้วหัวแม่เท้า แต่ก็สามารถเกิดกับข้อต่อหลายส่วนตามร่างกายได้ เช่น ข้อเท้า ข้อศอก หัวเข่า ข้อต่อกระดูกมือ หรือข้อมือ อาการปวดจะรุนแรงในช่วง 4-12 ชั่วโมงแรก จากนั้นจะเริ่มปวดน้อยลงและมีอาการดีขึ้นภายใน 7-10 วัน แต่ในบางรายอาจมีอาการปวดได้นานหลายวันจนถึงหลายสัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นได้ เช่น
ข้อต่อ เกิดการอักเสบ และติดเชื้อ อาจเกิดขึ้นกับข้อต่อเพียงข้อเดียวหรือหลายข้อต่อ จนทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเป็นสีแดง บวมแดง และแสบร้อน การเคลื่อนไหวร่างกาย เริ่มไม่สะดวก จากภาวะข้อติด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกความรุนแรงของโรคที่เพิ่มมากขึ้น ผิวหนังบริเวณข้อต่อเกิดการลอกหรือคันหลังจากอาการของโรคดีขึ้น
อาการปวดข้ออาจทำให้ผู้ป่วยเข้าใจผิดได้ว่าเป็นสัญญาณของโรคข้ออื่น ๆ การปล่อยให้โรคพัฒนารุนแรงขึ้นโดยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจนำไปสู่อาการปวดอย่างเรื้อรังและสร้างความเสียหายให้กับข้อต่อได้
โรคเก๊าท์ มีสาเหตุจาก ภาวะกรดยูริกในเลือดสูง (Hyperuricemia) ซึ่งเป็นภาวะของร่างกาย ที่มีการสะสมของ กรดยูริกในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้เกิดการตกผลึก Potassium oxonate และ hypoxanthine ตามข้อต่าง ๆ จนเกิดอาการปวดบวมตามข้ออย่างรุนแรง และ มีอาการอื่น ๆ ของโรคตามมา
กรดยูริกเป็นสารเคมีชนิดหนึ่งในเลือดที่ได้มาจากการย่อยสลายสารพิวรีน (Purines) ในเนื้อเยื่อ ทั่วร่างกาย และ อาหารที่รับประทานเข้าไป โดยร่างกายจะมีการปรับสมดุล ของกรดยูริก ด้วยการกรองจาก ไต ก่อนมี การขับออกทางปัสสาวะ และอุจจาระ เมื่อมีปริมาณกรดยูริกมากขึ้น จากการสร้างของร่างกาย จากการรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูง หรือไตมีความผิดปกติในการกรองสารพิวรีน มักนำไปสู่ ภาวะกรดยูริกในเลือดสูง ได้ง่าย
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีปัจจัยอีกหลายอย่าง ที่มีความเกี่ยวข้องกัน เช่น การดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก การรับประทานอาหารทีมี สารพิวรีนมากเกินไป เช่น สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ ยอดผัก กุ้งเคยหรือกะปิ ปลาซาร์ดีน หอยแมลงภู่ สารสกัดจากยีสต์
การได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอ การดื่มน้ำอัดลมเกินปริมาณที่พอดีต่อวัน ซึ่งมีการศึกษาพบว่า การดื่มน้ำอัดลมประเภทที่มี น้ำตาลฟรุกโตส อาจเพิ่มการสะสมกรดยูริกในเลือดได้สูงถึง 85% นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผลไม้และน้ำผลไม้บางชนิด ที่มีน้ำตาลฟรุกโตส อยู่มาก
อาการเจ็บป่วยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเซลล์ในร่างกายอย่างรวดเร็ว เช่น โรคสะเก็ดเงินขั้นรุนแรง หรือความผิดปกติทางเลือดบางอย่าง
ยาบางประเภทที่ส่งผลต่อระดับกรดยูริกในร่างกาย เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาเคมีบำบัดบางชนิด ยาแอสไพริน และยาลดความดันโลหิตบางชนิด
โรคประจำตัวหรือสภาวะของร่างกายบางอย่าง เช่น ภาวะอ้วน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ ไตทำงานผิดปกติ โรคเบาหวาน โรคพร่องเอนไซม์ ความผิดปกติของไขกระดูก โรคหลอดเลือดผิดปกติ
มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคเก๊าท์ โดยพบว่า 1 ใน 5 ของผู้ป่วยโรคเก๊าท์จะมีบุคคลในครอบครัวเจ็บป่วย
แพทย์จะมีการสอบถามอาการ ประวัติการเป็นโรคเก๊าท์ของบุคคลในครอบครัว การตรวจร่างกายทั่วไป ตลอดจนดูสัญญาณบ่งบอกของโรคอื่น ๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลช่วยในการวินิจฉัยโรค หลังจากนั้นจะมีการตรวจพิเศษเพิ่มเติมอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ เช่น
การเจาะข้อ มักถูกใช้เป็นวิธีหลักในการตรวจวินิจฉัย แพทย์จะนำเข็มเจาะบริเวณข้อที่มีอาการ เพื่อดูดเอาน้ำในข้อออกมาตรวจดูการสะสมของผลึกยูเรต (Urate Crystals) ภายใต้กล้องจุลทรรศน์
การตรวจเลือด เมื่อการตรวจวินิจฉัยโดยการเจาะข้อไม่สามารถทำได้ แพทย์อาจจะให้มีการเจาะเลือด เพื่อตรวจวัดระดับของกรดยูริกและสารครีเอตินินว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่
การอัลตราซาวด์ จะช่วยตรวจพบการสะสมของผลึกยูเรตตามข้อจนเป็นปุ่มนูนหรือก้อนที่เรียกว่า โทฟี่ (Tophi)
ถั่งเช่ามีผลกับโรคเก๊าท์อย่างไร
แล้วถั่งเช่า สามารถนำมาใช้รักษาอาการ ของโรคเก๊าท์ ได้อย่างไร?
(บทความแปล : งานวิจัยของจีน ตาม Abstract ด้านล่าง)
จากงานวิจัยของประเทศจีนมีตำรายาจีน ฉบับโบราน (Ethnopharmacological Cordyceps militaris) ได้มีการบันทึกเรื่องราว เกี่ยวกับ [โรคเก๊าท์] คือ “การปกป้องตับ และ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของไต ที่มีผลมาจากระดับกรดยูริคในเลือด
วัตถุประสงค์ของการศึกษา มีจุดมุ่งหมายคือ การตรวจสอบผลกระทบ hypouricemic และกลไกการทำงาน ของ [ถั่งเช่า] ในหนูทดลอง (hyperuricemic) โดยใช้วิธีสกัด สารคุณประโยชน์ จาก ถั่งเช่า ด้วยน้ำ Water Extract of Cordyceps Militaris (WECM) ที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส
เพื่อนำมาให้หนูทดลองกินในปริมาณ 5 mg ต่อ น้ำหนักตัว 1 kg พบว่า สาร hyperuricemic ที่เกิดจาก Potassium oxonate และ hypoxanthine ในเลือดของหนูทดลอง มีปริมาณ ลดลง ผลการทดสอบ (WECM) แสดงฤทธิ์ hypouricemic ที่ประสบความสำเร็จ อย่างดีเยี่ยม คือ สามารถลดระดับ กรดยูริค ของหนู hyperuricemic (306 ไมโครโมล / ลิตร) ถึง 189, 184 และ 162 ไมโครโมล / ลิตร ในปริมาณที่แตกต่างกันตามลำดับ (p <0.01) จนกระทั่งอยู่ในระดับของ หนูปกติ (184 ไมโครโมล / ลิตร) เกลือยูเรต transporter 1 (URAT1) ระดับโปรตีนของไตในปริมาณที่แตกต่างกันของ WECM เป็น 28.15, 17.43, 9.03 PG / มิลลิลิตรตามลำดับ ต่ำกว่าในกลุ่ม hyperuricemia นี้ (93.45 PG / ml p <0.01); การทดลอง (WECM) จะแสดง URAT1 ด้วยการจำลอง การเชื่อมต่อโดยใช้โครงสร้างแบบจำลองของ URAT1 ให้ผลว่า LYS145, ARG325, ARG477 และ ASP168 ของ URAT1 มีสารตกค้างการทำงานที่สำคัญของ URAT1 สี่สารประกอบที่ใช้งานใน ถั่งเช่า ถูกระบุ และเชื่อมโยง กับ เป้าหมาย อยู่ที่ประมาณระหว่าง -200 และ -400 kcal /mol
สรุปผลการค้นพบครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ถั่งเช่า สามารถ ลด hypouricemia อย่างมีนัยสำคัญ และ ผลกระทบของ hypouricemic WECM อาจนำมาประกอบกับผลกระทบของ inhibitive (WECM) ในระดับโปรตีน URAT1 ผลการวัดค่า ไนโตรเจน ในปัสสาวะ ในเลือด และ ระดับ creatinine ใน ตับไตและม้าม สัมประสิทธิ์แสดงให้เห็นว่า WECM ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของตับไตและม้าม ดังนั้นผลการทดลองนี้ จึงมีความชัดเจนว่า ถั่งเช่าสามารถใช้รักษาอาการของโรคเก๊าท์ได้
สรุปกันเลยครับ
ถั่งเช่าเป็นตัวช่วยในการปรับสมดุลของเลือด และช่วยฟอกเลือดให้สะอาด เพิ่ม oxygen ให้แก่เลือด ลดความหนืดข้น เลือดจึงไหลเวียนไปทั่วร่างกาย ได้สะดวก และทั่วถึงการรับประทาน ถั่งเช่า เช้า-เย็น วันละ 2 แคปซูล จึงสามารถ ใช้รักษาอาการ ของโรคเก๊าท์รูมาตอย และ ข้ออักเสบและโรคต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง
ขอขอบคุณข้อมูล Facebook : อาจารย์ Worawit Rochanavipart