8 วิธีป้องกันโควิดแบบง่ายๆ
สวัสดีครับ วันนี้เรามาดูวิธีป้องกันการติดเชื้อโควิดแบบง่ายๆ กันครับ โรคโควิดเป็นโรคที่ยังไม่สามารถรักษาได้ ณ ตอนนี้ และมีการแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็วมาก
ซึ่งวิธีการรับมือกับโรคนี้ง่ายๆ คือการหลีกเลี่ยงการติดโรค เรามาดูกันดีกว่าครับว่า เราจะป้องกันการติดโรคโควิดได้ง่ายๆ และสามารถทำได้อย่างไรบ้าง
1.ใส่แมสป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า การใส่แมสป้องกันคือวิธีการเบื้องต้นง่ายๆที่สุดในการป้องการการติดต่อโรคโควิด เพราะสามารถป้องกันทั้งการติดจากผู้อื่น
และป้องกันการแพร่เชื้อให้ผู้อื่นหากเรามีเชื้อโรค การใส่หน้ากากอนามัยคือต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง หากมีอาการไอหรือมีน้ำมูก หรือใส่หน้ากากอนามัยหากต้องใกล้ชิดหรือดูแลผู้ป่วย
* ต้องใส่หน้ากากอนามัยให้ปิดทั้งปากและจมูกโดยไม่มีช่องว่างระหว่างในหน้าและหน้ากากอนามัย
* ห้ามจับหน้ากากอนามัยเด็ดขาด! หากเกิดการสัมผัสหน้ากากระหว่างที่ใส่อยู่นั้น ให้รีบล้างมือให้สะอาดทันที และจำไว้เสมอว่าตอนถอดหน้ากากออกนั้น ห้ามจับด้านหน้าของหน้ากากเด็ดขาด
*เมื่อหน้ากากอนามัยเริ่มชื้นแล้ว ควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยทันที
*หลังจากใช้หน้ากากอนามัยแล้ว ควรตัดทิ้งและนำไปทิ้งลงทั้งขยะทันที เพื่อป้องกันการใช้ซ้ำ
*ล้างมือใส้สะอาดทุกครั้ง หลังถอดหน้ากากอนามัยออก
2.ล้างมือบ่อยๆ การล้างมือบ่อยๆตือการชำระล้างเชื้อโรคทุกชนิด รวมทั้งเชื้อโควิด ให้หลุดออกจากมือด้วยน้ำสะอาดและควรล้างมือด้วยสบู่เพื่อชำระล้างมือให้สะอาด การล้างมือบ่อยๆ การล้างมือควรล้างด้วยสบู่อย่างต่ำเป็นเวลา 20 วินาที
- ล้างมือด้วยสบู่และน้ำเพื่อความสะอาดและปราศจากเชื้อโรค
- การพกเจลล้างมือแอลกอฮอล์ สามารถทำได้ทุกที่และง่ายดาย เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด
3.ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ อย่างที่ทราบกันแล้วว่าการออกกำลังกายคือการทำร่างกายให้มีภูมิต้านทาน เมื่อมีเชื้อโรคพยายามเข้าสู่ร่างกาย ก็ทำให้ร่างกายสามารถป้องกันการติดเชื้อ
4.นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับให้เพียงพอช่วยให้ร่างกายสมดุลและมีภูมิต้านทานที่ดีนั่นเอง
5.หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมชนหรือคนเยอะๆ และแนะนำให้อยู่บ้าน หรือการทำ การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) เพื่อเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เป็นอีกวิธีหนี่งที่ลดการแพร่ เพราะเชื้อโรคโควิด มีการแพร่จากคนสู่คนและหลักการง่ายๆ ก็คือลดการเจอผู้คนก็สามารถหยุดการแพร่ได้ง่ายๆนั่นเอง
Social Distancing หรือที่ในภาษาไทยเรียกว่า ‘การเว้นระยะห่างทางสังคม’ ซึ่งการเว้นระยะห่างทางสังคมนี้สามารถเข้าใจง่าย ๆ คือการสร้างระยะห่างระหว่างตัวเราเองกับคนอื่น ๆ ในสังคม รวมถึงการลดการออกไปนอกบ้านโดยไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการใช้ขนส่งสาธารณะ การไม่เข้าร่วมกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น และการทำงานอยู่ที่บ้าน ทั้งนี้การทำ Social Distancing จะช่วยลดอัตรการแพร่ระบาดของไวรัสจากคนสู่คน ตามที่ Gerardo Chowell ประธานสาขาวิทยศาสตร์สุขภาพประชากร (Population Health Sciences) จาก Georgia State University ได้เผยว่า ทุก ๆ การลดจำนวนการติดต่อระหว่างคนต่อวัน ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อระหว่างเครือญาติ เพื่อน เพื่อร่วมงาน หรือที่โรงเรียนนั้นจะช่วยลดการแพร่เชื้อไวรัสในสังคมเป็นอย่างมาก
* ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกนั้น การเว้นระยะห่างระหว่างตัวเรากับคนที่มีอาการไอหรือจามนั้นควรรักษาความห่างอยู่ที่อย่างน้อย 1-2 เมตร เพราะไวรัสนั้นสามารถติดต่อได้ผ่านละอองขนาดเล็กที่มาจากการไอหรือจามได้ ซึ่งถ้าหากอยู่ใกล้ชิดกันเกินไปเราก็อาจจะสูดเอาไวรัสเข้าร่างกายได้
ควรรักษาความห่างอยู่ที่อย่างน้อย 1-2 เมตร
* หลีกเลี่ยงการสัมผัสทางกายภาพ เพราะอาจเป็นการนำเชื้อมาสู่ตัวเอง หรือในขณะเดียวกันก็เป็นการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น
* หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้าน หรือการใช้ขนส่งสาธารณะ เนื่องจากไวรัส COVID-19 นั้นสามารถติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัสและละอองขนาดเล็ก การที่เราออกไปนอกบ้าน ใช้ขนส่งสาธารณะที่มีความหนาแน่น และในบางครั้งเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้ราวจับ เช่น รถเมล์ หรือรถไฟฟ้า เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครนั้นมีเชื้อไวรัสอยู่บ้าง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เป็นพาหะ (มีเชื้อแต่ไม่มีอาการ) ดังนั้นการหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านก็อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันตัวเองในขณะนี้
* การ Work From Home หรือการทำงานที่บ้านก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและการแพร่เชื้อ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำงานที่บริษัทนั้นอาจจะมีประสิทธิภาพมากกว่า แต่พนักงานบางกลุ่มนั้นไม่อาจหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยขนส่งสาธารณะที่มีความแออัดในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนได้ ซึ่งเป็นที่ที่มีโอกาสสูงในการติดเชื้อ ดังนั้นการให้พนักงาน Work From Home ก็เป็นการป้องกันการแพร่เชื้อทั้งภายในบริษัทและนอกบริษัทเช่นกัน
* การเรียนการสอนผ่านทางช่องทางออนไลน์ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มหาลัยหรือสถานศึกษาต่าง ๆ สามารถนำมาใช้ได้เพื่อป้องกันการระบาดภายในมหาลัยและห้องเรียน ต้องขอบคุณความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ทำให้มีแพลตฟอร์มต่าง ๆ มารองรับการเรียนแบบระยะไกล เช่น Zoom, Microsoft Teams และ Google Hangout
6.รับประทานวิตามินซี อย่างที่เราทราบแล้วว่าวิตามินซีสามารถป้องกันการติดหวัดและไข้หวัดนั่นเอง เราสามารถทานวิตามินซี ซึ่งสามารถทานอาหารที่มีวิตามินซีในผลไม้ต่างๆ หรือสามารถทานวิตามินแบบเม็ดได้ง่ายๆนั่นเอง
7.การรับประทานควรงดการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น และควรแยกสำรับหรือแยกกันกิน แยกจานและช้อนแก้วน้ำ และงดการใช้ร่วมกับผู้อื่นไปในช่วงนี้
8.รับประทานถั่งเช่า การทานถั่งเช่าก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง เพราะถั่งเช่านั้นสามารถเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย สามารถต้านทานเชื้อโรคต่างๆได้นั่นเอง
ถั่งเช่าเสริมภูมิต้านทาน https://cordyl.com/ถั่งเช่าเสริมภูมิต้านท/
