มะเร็งต่อมลูกหมากกับถั่งเช่า ,ต่อมลูกหมากโต
ปัญหาที่พบในระยะหลังๆมานี้ สำหรับท่านชาย ก็คือมะเร็งต่อมลูกหมาก และ ต่อมลูกหมากโต ไม่ต้องบอก ก็คงต้องเข้าใจ ว่าเป็นโรคอันตราย ของท่านชาย เท่านั้น หากเทียบกับใน ผู้หญิง ก็อาจเทียบได้กับ มะเร็งปากมดลูก (เพศใคร-เพศมัน) คือ โรคที่น่ากลัว แม้ว่า อาจมีอันตราย น้อยกว่า มะเร็งในอวัยวะอื่นๆ ก็ตาม แต่ก็ควรสนใจ และตั้งรับให้ดีๆ ลองมาดู สมุหฐานของโรค กันก่อนครับ
ต่อมลูกหมาก คือต่อมหนึ่งในร่างกายที่อยู่ภายในระบบสืบพันธุ์ของเพศชาย มีรูปร่างคล้ายผลวอลนัท หรือลูกเกาลัด บ้านเรา ตำแหน่งของต่อมลูกหมาก จะอยู่ที่บริเวณระหว่างกระเพาะปัสสาวะ และอวัยวะเพศชาย (ด้านหน้าของทวารหนัก) และมีท่อปัสสาวะผ่านตรงกลางของต่อม ต่อมนี้ มีในเพศชายเท่านั้น มีหน้าที่ในการสร้างของเหลวที่คอยหล่อเลี้ยงอสุจิ ร่วมกับ คาวเปอร์แกรนด์ ขนาดที่ผิดปกติของต่อมลูกหมาก นอกจากจะส่งผลทำให้ทางเดินปัสสาวะติดขัดแล้ว ก็ยังส่งผลให้อสุจิที่ถูกหลั่งออกมา.. ไหลกลับเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะได้ หากไม่ได้รับการรักษาก็อาจส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ ทางเดินปัสสาวะ และไตได้ในอนาคต
อาการต่าง ๆ ของต่อมลูกหมากโต ที่พบ จะเป็น ดังนี้
1. ปัสสาวะได้ลำบาก
2. มีปัญหาเรื่องการไหลของปัสสาวะ
3..ปัสสาวะบ่อยขึ้น
4. ปัสสาวะน้อย และปัสสาวะไม่สุด
5. ตื่นบ่อยเนื่องจากการปัสสาวะบ่อย
6. เกิดการปัสสาวะเล็ดเนื่องจากไม่สามารถควบคุมการปัสสาวะได้
นอกจากนี้ โรคต่อมลูกหมากโตยังเป็นสาเหตุของอาการปัสสาวะไม่ออก หรือภาวะแทรกซ้อน เช่น นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ หรือความเสียหายของไตได้อีกด้วย หากมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์ ได้แก่ มีไข้ หนาวสั่น ปวดที่สีข้าง บริเวณหลัง หรือบริเวณท้อง ปัสสาวะมีหนองหรือมีเลือดปน
สาเหตุของต่อมลูกหมากโต
1. เกิดขึ้นจากความเสื่อมของร่างกายตามวัย ของผู้ชาย
2. เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของสมดุลฮอร์โมน และ ฮอร์โมนเพศ
3. เกิดจากพันธุกรรม คือมักพบในผู้ป่วยที่มีประวัติว่าคนในครอบครัว เคยมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก หรือผู้ที่มีความผิดปกติของอัณฑะโดยเฉพาะ มักพบได้บ่อยคือ คนที่มีอายุมากกว่า 50 ปี
การตรวจ วินิจฉัยอาการต่อมลูกหมากโต สามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่
1. การตรวจทางทวารหนัก (Digital Rectal Exam: DRE) โดยใช้นิ้วสอดเข้าไปทางทวารหนักเพื่อตรวจดูขนาดและความผิดปกติของต่อมลูกหมาก
2. การตรวจปัสสาวะ (Urinalysis) เพื่อตรวจการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
3. การตรวจสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate-Specific Antigen: PSA) สามารถช่วยให้แพทย์ระบุได้ว่า เป็นโรคต่อมลูกหมากโตหรือมะเร็งต่อมลูกหมากหรือไม่
4. การตรวจค่าครีเอทินินในเลือด (Blood Creatinine Test) เป็นการตรวจดูการทำงานของไต ว่ายังทำงานได้ดีหรือไม่
5. การตรวจปริมาณปัสสาวะที่คงค้างอยู่ (Post-Void Residual Urine Test: PVR) เป็นการตรวจวัดปริมาณปัสสาวะที่คงเหลืออยู่ในกระเพาะปัสสาวะหลังจากที่ปัสสาวะแล้ว โดยจะใช้การอัลตราซาวด์ (Ultrasound) หรือใช้สายสวนปัสสาวะใส่เข้าไปทางท่อปัสสาวะ
6. การตรวจการไหลของปัสสาวะ (Urinary Flow Test) คือการตรวจวัดความแรงและปริมาณการไหลของปัสสาวะ
7. การจดบันทึกปริมาณและความถี่ในการปัสสาวะใน 24 ชั่วโมง ช่วยให้ทราบถึงการทำงานของระบบปัสสาวะ โดยเฉพาะในกรณีที่การปัสสาวะในตอนกลางคืนมีปริมาณมากกว่า 1 ใน 3 ของปริมาณการปัสสาวะต่อวัน
8. การตรวจอัลตราซาวด์ทางทวารหนัก (Transrectal Ultrasound) เป็นการตรวจด้วยคลื่นเสียง โดยนำอุปกรณ์ขนาดเล็กใส่เข้าไปทางทวารหนักเพื่อทำการตรวจขนาดและโครงสร้างของไต กระเพาะปัสสาวะ และต่อมลูกหมาก
9. การเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อของต่อมลูกหมาก (Prostate Biopsy) ในบางครั้งแพทย์อาจเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อของต่อมลูกหมากในขณะที่ตรวจอัลตราซาวด์ด้วย ซึ่งวิธีนี้จะช่วยระบุได้ว่าการที่ต่อมลูกหมากโตนั้นเกิดขึ้นจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก หรือสาเหตุอื่นๆ
10. การตรวจกระเพาะปัสสาวะ (Cystoscopy) แพทย์สอดกล้องขนาดเล็กเข้าไปเพื่อตรวจท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะ วิธีนี้จะช่วยให้เห็นขนาดของต่อมลูกหมากที่ใหญ่ขึ้นซึ่งไปขัดขวางทางเดินปัสสาวะ
11. การตรวจความดันภายในกระเพาะปัสสาวะขณะปัสสาวะ วิธีนี้จะช่วยให้แพทย์สามารถระบุได้ว่าปัญหาในการปัสสาวะลำบากเกิดจากโรคต่อมลูกหมากโตหรือเกิดจากปัญหาอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะและระบบประสาทควบคุมกระเพาะปัสสาวะ
12. การตรวจด้วยการฉีดสี (Intravenous Pyelogram: IVP) เป็นการเอกซเรย์โดยใช้สารทึบสีช่วยเพื่อให้เห็นการทำงานของไตและการไหลเวียนของปัสสาวะจากไตไปยังกระเพาะปัสสาวะ
หากไม่คิดถึงการผ่าตัดซึ่งเป็นวิธีสุดท้าย อาจใช้การรักษาโดยวิธีการใช้ยา เป็นวิธีพื้นฐานในการรักษาอาการโรคต่อมลูกหมากโตของผู้ที่มีอาการไม่รุนแรง ยาที่แพทย์นิยมใช้ ได้แก่
1. แอลฟา-บล็อกเกอร์ (Alpha Blockers) ยาชนิดนี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณคอของกระเพาะปัสสาวะ และช่วยคลายเส้นใยกล้ามเนื้อภาวะในต่อมลูกหมาก อีกทั้งยังช่วยทำให้ปัสสาวะได้ง่ายขึ้น ทว่าผลข้างเคียงของยาชนิดนี้ อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน และอาจทำให้อุสจิไหลกลับเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ (Retrograde Ejaculation)
2. ยา 5 แอลฟา รีดักเตส อินฮิบิเตอร์ (5 Alpha Reductase Inhibitor) ยาดังกล่าวจะช่วยให้ต่อมลูกหมากหดตัว ลดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ทำให้ต่อมลูกหมากขยายตัว แต่ยาชนิดนี้อาจมีผลต่ออสุจิ
3. ยาทาดาลาฟิล (Tadalafil) มีการศึกษาพบว่าการใช้ยาดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และช่วยรักษาโรคต่อมลูกหมากโต แต่ยาชนิดนี้มักจะถูกใช้กับผู้ป่วยที่มีภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
มะเร็งต่อมลูกหมากสามารถแบ่งเป็น 4 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 ระยะแรกเริ่มของโรค เซลล์มะเร็งมีขนาดเล็กและไม่รุนแรงเมื่อส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์
ระยะที่ 2 เซลล์มะเร็งอาจยังมีขนาดเล็กอยู่ แต่ค่อนข้างมีความรุนแรง หรือในบางรายเซลล์มะเร็งอาจมีขนาดใหญ่ขึ้นและเจริญเติบโตไปทั้ง 2 ข้างของต่อมลูกหมาก
ระยะที่ 3 เป็นระยะมะเร็งลุกลามออกจากบริเวณต่อมลูกหมากไปยังระบบสืบพันธุ์หรือเนื้อเยื่ออื่น ๆ รอบข้าง
ระยะที่ 4 เซลล์มะเร็งเติบโตจนรุกล้ำเข้าไปยังอวัยวะที่อยู่ใกล้อย่างกระเพาะปัสสาวะ หรือแพร่กระจายไปสู่ต่อมน้ำเหลือง กระดูก ปอด หรืออวัยวะอื่น ๆ
ถั่งเช่าช่วยเรื่องมะเร็งต่อมลูกหมากอย่างไร
งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Phytomedicine ระบุว่าเห็ดชนิดหนึ่งเรียกว่า Cordyceps อาจเป็นตัวเชื่อมโยงที่สำคัญในการรักษามะเร็ง
เชื้อราที่รู้จักกันดีในโลกตะวันตก คือ cordyceps militaris หรือที่เรียกว่าเห็ดหนอนผีเสื้อหรือถั่งเช่า ได้ถูกนำมาใช้เป็นเวลาหลายศตวรรษในการแพทย์แผนจีน เพื่อใช้รักษาอาการเมื่อยล้า เพื่อใช้เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
การศึกษาเกี่ยวกับ Phytomedicine ในเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวของมนุษย์พบว่าสารประกอบที่พบใน ถั่งเช่าสีทอง เรียกว่า Cordycepin สามารถต้าน เซลล์มะเร็งในระยะเริ่มต้น ทำให้เซลล์มะเร็งเกิดการ ฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นกระบวนการที่เรียกว่า apoptosis การศึกษา ชี้ชัดว่า ไม่เกิดการแสดงผลเป็นพิษต่อเซลล์ที่ดี
ก่อนหน้านี้การวิจัยในวารสาร Environmental Toxicology and Pharmacology ระบุว่าประสิทธิภาพของ ถั่งเช่าสีทอง ในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food and Chemical Toxicology พบว่า ถั่งเช่า cordycep militaris ใช้ได้ผลดีต่อ มะเร็งปอด และยังมี งานวิจัยอื่น ๆ พบว่า ถั่งเช่า ช่วยลดการเติบโตของเซลล์มะเร็งผิวหนังได้ด้วย
ถั่งเช่า มีประวัติการใช้ ที่ยาวนานและประสบความสำเร็จโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางการแพทย์แผนจีน ตำรับยาจีน มีหลักฐานในการใช้เห็ดมากกว่า 100 ชนิดโดยแพทย์แผนโบราณของจีน ได้ใช้ประโยชน์มายาวนานจนเป็นที่กว้างขวางใน ตลาดเห็ดทั่วโลก
สารทางยา ที่ได้จากเห็ดถั่งเช่า ปัจจุบันได้ถูกนำไปใช้ โดยผู้ผลิตเภสัชกรรมรายใหญ่ของเกาหลี ญี่ปุ่น และ จีน และหลายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ได้ถูกนำมาใช้ในการรักษาทั่วโลก โดยแพทย์ที่ทำการรักษา แบบองค์รวม รวมไปจนถึง แพทย์ด้านระบบประสาทวิทยาในสภาพแวดล้อมทางคลินิก Todate, Western, Medicine และยังได้มีการศึกษาเพื่อพัฒนาต่อยอด อีกด้วย
นอกจากการใช้ในภาค เภสัชกรรมแล้ว ถั่งเช่ายังถูกจัดเป็น สินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูง เป็นคุณค่าที่กระทรวงเกษตรสหรัฐรายงานว่า มียอดขายในสหรัฐฯ สูงถึง ประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
reference :
https://www.vitalherbs.co.uk/cordyceps-may-be-crucial-in-t…/
ดังนั้น เมื่อศึกษาจาก งานวิจัยแล้ว จะเห็นได้ว่า สาร cordycepins ที่ค้นพบใน ถั่งเช่า สามารถ สร้างปรากฏการณ์ ของการ apoptosis คือ การฆ่า-ทำลาย เซลล์มะเร็งที่ปอด (lung cancer cells) และ เซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก (treating prostate cancer) ได้ โดยไม่ทำร้าย หรือ ทำลาย เซลล์ ในส่วนที่ดี เลย การรักษา จะถูกนำมาใช้ กับ มะเร็งระยะที่ 1 และ 2 ของมะเร็งในแต่ละชนิด และสามารถใช้ได้ผล กว่า 80% หากจะกล่าวถึง การป้องกันแล้ว ในมะเร็งเกือบทุกชนิด
อีกงานวิจัยหนึ่งของประเทศ เกาหลี Prostate Cancer. มะเร็ง ต่อมลูกหมาก เป็นโรคที่ ไม่ได้ร้ายแรง หรือ น่ากลัวมากนัก แต่ คุณผู้ชาย ทุกคน ก็มีความกังวล และ ไม่อยากที่จะต้องเป็น เพราะ ผลกระทบที่มากมาย อันอาจนำไปสู่ อันตราย ถึงแก่ชีวิต ได้ หากเรา ปล่อย ปละ ละเลย
คำตอบคือ ถั่งเช่า สามารถช่วยป้องกัน โรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้
ถั่งเช่า สามารถใช้เป็นตัวป้องกันการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่างๆ ได้สูงถึง 98% ดังประเทศ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และประเทศใน สหรัฐอเมริกา และ ยุโรป ได้ ทุ่มทุน ในการ ค้นคว้า และ พัฒนาทั้ง ด้านสายพันธุ์ และ งานวิจัยทาง เภสัชกรรม และด้านการแพทย์ เพื่อหยุด และ ยับยั้งการแพร่กระจายของ มะเร็ง ต่อชีวิตของเรา อย่างต่อเนื่อง ประเทศไทย ของเรา จึงนับว่า โชคดี ที่การเพาะเลี้ยง แพร่ และขยายพันธุ์ ถั่งเช่า สามารถทำได้อย่างกว้างขวาง อีกไม่นาน คุณภาพชีวิต ของประชากร ในบ้านเรา ก็มีโอกาสที่จะ ห่างไกลจาก โรคมะเร็ง ต่างๆ ได้อย่างประสบความสำเร็จ และงดงาม
สรุปคือ Cordycepin ที่อยู่ในถั่งเช่าจะช่วยยับยั้งและทำลายเซลล์มะเร็งได้
ถั่งเช่าต้านมะเร็งได้ อ่านที่นี่
ถั่งเช่ากับสุขภาพของท่านช่าย
ขอขอบคุณข้อมูลครับ
ขอขอบคุณข้อมูล Facebook : อาจารย์ Worawit Rochanavipart
https://www.pobpad.com/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1…
5/5 (3)