สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาสรุปเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับ ถั่งเช่า Cordyceps) น่ะครับ ตั้งแต่ต้นกำเนิด การเพาะ การรับประทานถั่งเช่า หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้ จะมีประโยชน์สำหรับทุกท่านที่กำลังมองหาถั่งเช่าในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะทานเพื่อบำรุงร่างกาย หรือทานเพื่อแก้อาการของโรคครับ
ถั่งเช่าคืออะไร
“ถั่งเช่า” หรือ “ถั่งเฉ้า” มาจากคําว่า “ถั่ง” ที่ แปลว่า “หนอน” และ “เช่า” ที่แปลว่า “หญ้า” เรียก รวมกันว่า “ถั่งเช่า” หรือ “หญ้าหนอน” ซึ่งได้ชื่อมา จากการที่ในฤดูหนาวเป็นหนอน ในฤดูร้อนเป็นหญ้า ในภาษาจีนจะเรียกเห็ดถั่งเช่าทิเบต หรือเห็ดถั่งเช่าแท้ (Ophiocordyceps sinensis ušajalad Cordyceps sinensis) ว่า “ตงฉงเซียเน่า (Dong chong xia cao)” หรือตั้งถังเช่า (Dong chong cao)” หากเรียกว่า “ฉงเฉ่า (Chong cao)” อาจเป็นถั่งเช่าสีทอง (Cordycepsmilitaris)
ถั่งเช่าหิมะ (Isaria tenuipes) หรือตัวอื่น ๆ ได้ (Zhou et al., 2009) ผู้เขียนจึงขอเรียกเห็ดที่ขึ้น มาจากตัวแมลงต่าง ๆ ที่มีฤทธิ์ทางยาว่า “เห็ดสกุล ถั่งเช่า” ซึ่งมีอยู่หลายจีนัส เช่น Ophiocordyceps sp., Cordyceps sp., Paecitomyces sp. และ Isaria sp. เป็นต้น มีการศึกษา รวบรวม จําแนก เพาะ เลี้ยง ปรับปรุงสายพันธุ์ และผลิตเป็นการค้าในจีน เกาหลี ไต้หวัน อินเดีย สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และ สิงคโปร์ โดยมีการใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคต่าง ๆ และ เป็นอาหารเสริมสุขภาพ อนึ่งคําว่า “ถั่งเช่า” เป็นศัพท์
ที่ถูกต้องตามพจนานุกรมตามที่ราชบัณฑิตยสถาน กําหนด
ส่วนคําว่า “ถั่งเฉ้า” เป็นศัพท์ที่ก่อนนี้ทาง สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กําหนด ให้ผู้ที่ต้องการจดทะเบียนอาหารเสริมและยาใช้คํานี้ แต่ปัจจุบันอนุญาตให้จดทะเบียนได้ทั้งสองแบบ
ส่วนประกอบ ของเห็ดถั่งเช่า
ถั่งเช่าอุดมไปด้วยสารสําคัญหลายชนิดที่มีผลทาง ชีวภาพ เช่น โมโนแซคคาไรด์ (Monosaccharide) ไดแซคคาไรด์ (Disaccharides) โพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides) เบต้า-กลูแคน (Beta glucan) แมนนิทอล (Mannito) กาแล็กโทส (Galactose) อะดีโนซีน (Adenosine) คอร์ไดเซปิน (Cordycepin) กรดคอร์ไดเซปิก (Cordycepic acid) กรดอะมิโน (Amino acid) โปรตีน (Protein) สเตอรอล (Sterol) วิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก คอปเปอร์ แมงกานีส สังกะสี ฟอสฟอรัส และซีรีเนียม เป็นต้น (ธัญญา และคณะ, 2556
Bhandari et al., 2010)
เห็ดถั่งเช่าประกอบไปด้วยนิวคลีโอไซด์ (Nucleosidae) มากกว่า 10 ชนิด เช่น อะดีนีน (Adenine) อินโนซีน (Inosine) ไทมีน (Thymine) ไทมิดีน (Thymidine) และ ดีอ๊อกซี่ยูริดีน (Deoxyuridine) นิวคลีโอไซด์เกี่ยวข้องกับ กลไกและการทํางานของกลไกในกระบวนการสรีรวิทยาที่ เกี่ยวข้องกับระบบประสาทส่วนกลาง (Schmidt et al. 2003) และต้านการเกิดเนื้องอก (Wu et al., 2007) แต่ อย่างไรก็ตามถั่งเช่าสดในธรรมชาติมีปริมาณนิวคลีโอไซด์ อยู่น้อยกว่าแบบอบแห้งและแปรรูปแล้ว ที่น่าสนใจไป มากกว่านั้นคือ เส้นใยของถั่งเช่าที่ได้จากการเพาะเลี้ยงมี ปริมาณนิวคลีโอไซด์สูง (ตารางที่ 2.1) ความชื้นและความ ร้อนมีผลต่อการเพิ่มขึ้นของปริมาณนิวคลีโอไซด์ของถั่งเช่า ที่ขึ้นตามธรรมชาติ
การเก็บถั่งเช่าที่ความชื้นสัมพัทธ์ 75 เปอร์เซ็นต์ อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 วัน จะทําให้นิวคลีโอไซด์ในถั่งเช่าตามธรรมชาติเพิ่มขึ้น 4 เท่า ตัว แต่อย่างไรก็ตามความชื้นและความร้อนไม่มีผลต่อเส้นใย ของถังเช่าในระหว่างการเพาะ เชื่อกันว่านิวคลีโอไซด์ใน ถังเช่าทิเบตที่ขึ้นตามธรรมชาติต่างจากที่ได้จากการเพาะ เลี้ยง (Li et al., 2006a) โดยปกติในการวัดคุณภาพของ ถังเช่าจะวัดจากคุณภาพของอะดีโนซีน (Pharmacopoeia of the People’s Republic of China, 2005 อ้างตาม Li et al., 2006b) แต่ที่จริงแล้วคุณภาพของถั่งเช่า ขึ้นอยู่กับนิวคลีโอไซต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อะดีโนซีน อินโนซีน และคอร์ไดซิปิน ตามตารางข้างล่างนี้
ปริมาณสารสำคัญที่พบในถั่งเช่าที่ได้จากแหล่งต่างๆ (มิลลิกรัมต่อกรัม)
จำหน่ายถั่งเช่าสีทองเกรด A 100%| จำหน่ายถั่งเช่าไลน์ไอดี @cordylanna
โครงสร้างสารสำคัญที่พบในเห็ดถั่งเช่า
เห็ดถั่งเช่าประกอบไปด้วยโพลีแซคคาไรด์ 3-8 เปอร์เซ็นต์ของน้ําหนักแห้ง (Li et al., 2006a) โพลีแซคคาไรด์ชนิด เบต้า-กลูแคน (8-glucan) และ กาแลคโตแมนแนน (Galactomannan) ช่วยต้านอนุมูล อิสระ (Li et al., 2006b) เพิ่มภูมิคุ้มกัน (Wu et al., 2012) ชะลอความชรา (Yu et al., 2007) ต้านการเกิด เนื้องอกและเซลล์มะเร็ง (Wasser, 2002) มีฤทธิ์ยับยั้ง การอักเสบ (Yu et al., 2004) และส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ในหนูทดลอง (Wu et al., 2012)
สารคอร์ไดเซปิน กรดคอร์ไดเซปิก และอะดีโนซิน ช่วยเพิ่มพลังงานภายในร่างกาย (Dai et al., 2001) เสริม สร้างความแข็งแกร่งให้นักกีฬา (Parcell et al., 2004) เห็ดถั่งเช่าถูกใช้ในการป้องกันและรักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคหอบหืด วัณโรค โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โรคไต โรคหัวใจ รวมถึงโรคระบบไหลเวียนโลหิต ความดันโลหิตสูง ภาวะที่เม็ดเลือดขาวต่ํากว่าปกติ โรคนอนไม่หลับ อ่อนล้า ความเครียด ระบบประสาท โรคตับอักเสบเฉียบพลันและ เรื้อรัง เพิ่มภูมิคุ้มกัน เพิ่มความแข็งแรงของร่างกายให้ ต้านทานต่อแบคทีเรียและไวรัส (Ng and Wang, 2005) ต่อต้านการเกิดเนื้องอก (Yalin et al., 2005) แก้ความ ผิดปกติทางเพศทั้งในผู้ชายและผู้หญิง (Lim et al., 2012)
ถั่งเช่าถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นเชื้อราที่ไม่มีพิษ (Nontoxic fungal substance) (Huang et al., 1987) มีข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดถั่งเช่ามากมาย สามารถศึกษาได้ จากบทความทางเว็บไซด์ต่าง ๆ ทางอินเตอร์เน็ต แต่ควรใช้ วิจารณญาณในการรับข้อมูล
สารคอร์ไดเซปินในถั่งเช่าคืออะไร https://cordyl.com/สาร-cordycepin-ในถั่งเช่าคืออะไร/
ประวัติการเพาะเลี้ยง ถั่งเช่าในประเทศไทย
ก่อนหน้านี้ข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดในสกุลถังเช่าในประเทศไทย มีอยู่น้อยมาก บางคนไม่รู้จักเห็ดถั่งเช่ามาก่อนเลย คุณหญิง ประไพศรี พิทักษ์ไพรวัน และปราโมทย์ ไทยทัตกุล เคยได้ เขียนบทความเกี่ยวกับเห็ดถั่งเช่าว่าเป็นเห็ดที่น่าสนใจและ อาจเพาะได้ในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2543 ต่อมา ปี พศ 2546 อาจารย์ธวัช ทะพิงค์แก ได้นําเห็ดถั่งเช่าทิเบตที่ เพาะได้ไปวางแสดงที่งานประชุม Thai-Japanese MiniSymposium on Macrofungi วันที่ 8-9 ธันวาคม 2546 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนกระทั่งต้นปี พ.ศ. 2553 นายแพทย์สมยศ กิตติมั่นคง หัวหน้ากลุ่มโรคเอดส์สํานักโรค เอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุม โรคกระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอข่าวเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยง ถั่งเช่า และสรรพคุณของถั่งเช่าที่มีฤทธิ์เพิ่มสมรรถนะทาง เพศ จึงทําให้เห็ดถั่งเช่าเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล ผู้เชี่ยวชาญเห็ดองค์การอาหารและเกษตรแห่ง สหประชาชาติ (พ.ศ. 2524 – 2548) นําเสนอในเว็บไซด์ว่า ได้ศึกษารวบรวมสายพันธุ์และผลิตเส้นใยเห็ดถั่งเช่าแท้ ส่งออกไปจําหน่ายยังยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย มานานนับสิบปีแล้ว (อานนท์, 2553)
ในปีเดียวกัน ผู้เขียนได้มีโอกาสไปนําเสนอผลงาน ที่งานประชุมวิชาการของสมาคมนักวิจัยและเพาะเห็ดแห่ง ประเทศไทย โดยผู้เขียนได้ทําการวิจัยและประสบความ สําเร็จในการเพาะเลี้ยงเห็ดในสกุลถั่งเช่า โดยใช้กรรมวิธี และอุปกรณ์แบบง่ายที่ผู้สนใจทั่วไปสามารถที่จะเรียนรู้และ นําไปปฏิบัติได้ ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ต้องใช้หม้อนึ่งความดันที่ มีราคาสูง เหมาะสําหรับผู้ที่ต้องการจะเพาะเห็ดไว้รับ ประทานเองที่บ้านหรือนําไปประกอบอาชีพเสริม ปรากฏ ว่าได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้สื่อข่าวนํางานวิจัย นี้ไปนําเสนอในหนังสือพิมพ์ วารสาร วิทยุ และโทรทัศน์ ทําให้มีผู้สนใจอยากเรียนรู้เกี่ยวกับเห็ดสกุลถั่งเช่ามากมาย ติดต่อมาขอให้ทําการเปิดสอน ทางสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ จึงได้เปิดอบรม “การเพาะ เห็ดถั่งเช่า” เป็นแห่งแรกในประเทศไทย ทีมวิจัยของคณะ เทคโนโลยีการเกษตรได้ทําการศึกษาการเพาะเลี้ยงเห็ดถั่งเช่า และการนําไปใช้ประโยชน์ ทั้งทาง ด้านเป็นอาหารเสริมของคนและสัตว์ภายใต้โครงการวิจัย “การเพาะ เลี้ยงเห็ดสมุนไพร ถั่งเช่าสีทอง และ การนําไปใช้ประโยชน์” โดยทีมนัก วิจัยจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้ศึกษา จนได้วิธีการและสภาวะที่เหมาะสมใน การเพาะเลี้ยงเห็ดถั่งเช่าสีทองทั้งใน รูปของอาหารเหลวและอาหารแข็งที่ มีธัญพืชเป็นองค์ประกอบโดยวิธีการ อย่างง่าย โดยสามารถผลิตสารออก ฤทธิ์สําคัญ “คอร์ไดเซปิน” อยู่ในช่วง 2,000-20,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (part per million; ppm) ขึ้นอยู่กับ
สายพันธุ์ที่คัดแยกได้ (Cordyceps militaris CMRU 1-CMRU 65) ซึ่ง ถือว่าประสบผลสําเร็จเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก Cordyceps militaris CMRU เป็นเชื้อเห็ดถั่งเช่าสีทองสาย พันธุ์ที่คัดแยกได้จากธรรมชาติ แต่สามารถผลิตสารคอร์ได้เซปินได้ใน ปริมาณสูงเทียบเท่ากับเชื้อสายพันธุ์ ที่ถูกทําให้เกิดการกลายพันธุ์ของต่าง ประเทศ (Cordyceps militaris mutant) ที่ได้ถูกรายงานไว้ว่ามี ปริมาณคอร์ไดเซปินที่ประมาณ 8,570 มิลลิกรัมต่อลิตร (Das et al., 2009) จากการวิเคราะห์คุณค่าทาง โภชนาการและความปลอดภัย พบว่า เห็ดถั่งเช่าสีทองที่ได้จากการเพาะ เลี้ยงมีความเหมาะสมต่อการเป็น อาหารเสริมสุขภาพ และมีความ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค มีบทความอีก มากมายที่รวบรวมงานวิจัยที่แสดง ให้เห็นว่า ถังเช่าจากธรรมชาติหรือ ถั่งเช่าทิเบตมีองค์ประกอบที่คล้ายคลึง กันกับเห็ดถั่งเช่าสีทองที่เพาะเลี้ยง
(Das et al., 2010; Tui et al., 2014) องค์ประกอบของ สารในเห็ดถั่งเช่าสีทองที่ได้จากการเพาะเหมือนกันกับเห็ด รุ่งเช่าสีทองที่เก็บจากธรรมชาติ (Jiang and Sun, 1999) อีกทั้งยังพบว่า เห็ดถั่งเช่าที่เพาะเลี้ยงมีสารออกฤทธิ์ที่ มากกว่าถั่งเช่าที่เก็บจากธรรมชาติ อาจเป็นเพราะเห็ดถั่งเช่า
ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงได้รับการเพาะจากเชื่อที่ผ่านการคัด เรือกสายพันธุ์ มีความบริสุทธิปราศจากการปนเปื้อนจาก เชื้อหรือสารอื่น ๆ อีกทั้งสูตรอาหารและสภาวะที่ใช้ในการ เพาะเลี้ยงมีความเหมาะสมกับการผลิตสารออกฤทธิ์และ สามารถควบคุมได้ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถกระตุ้นให้เห็ด ถั่งเช่าสามารถแสดงศักยภาพในการผลิตสารออกฤทธิ์ ต่าง ๆ ได้ดีกว่า ดังนั้นเห็ดถั่งเช่าที่มาจากการเพาะเลี้ยงจึง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสมกับผู้บริโภคในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถควบคุมการผลิตได้ ถูกสุขอนามัย มีราคา ไม่สูงมากนัก หาซื้อได้ง่าย และลดความเสี่ยงในการถูกหลอก ซื้อของปลอม การเพาะเห็ดถั่งเช่าในระยะแรกเป็นการเพาะ ในขวดแก้ว แต่ปัจจุบันได้พัฒนาวิธีการเพาะจนสามารถเพาะ ในถ้วยพลาสติก กระบะ และถุงพลาสติก ซึ่งทําให้สามารถ ผลิตได้ในปริมาณที่มากขึ้น เหมาะแก่การทําเป็นการค้า
เนื่องจากความต้องการบริโภคมีมากขึ้น ทั้งในรูป อาหารเสริมสุขภาพใช้ประกอบอาหาร และใช้เป็นสมุนไพร รักษาโรคต่าง ๆ จึงได้มีการศึกษา รวบรวม จําแนกเพาะ เลี้ยง ปรับปรุงสายพันธุ์ และผลิตเป็นการค้าในหลาย ๆ ประเทศ อาทิ จีน เกาหลี ไต้หวัน อินเดีย สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และสิงคโปร์ ปัจจุบันถั่งเช่าที่นํามาใช้เชิงพาณิชย์ มีหลายชนิด แต่ในหนังสือเล่มนี้จะขอกล่าวถึงเฉพาะชนิด ที่ผู้เขียนได้ทําการศึกษา 4 ชนิด ได้แก่ เห็ดถั่งเช่าทิเบต หรือถั่งเช่าแท้ เห็ดถั่งเช่าสีทอง เห็ดถั่งเช่าหิมะ หรือ ถังเช่าเกาหลี และเห็ดถั่งเช่าจักจั่น หรือว่านจักจั่น
การเพาะเลี้ยงเห็ดถั่งเช่าในประเทศไทย https://cordyl.com/กว่าจะมาเป็นถั่งเช่า/
ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ การเพาะเห็ดถั่งเช่า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธัญญา ทะพิงค์แก
สายพันธุ์ของถั่งเช่า
เห็ดถั่งเช่าทิเบต หรือถั่งเช่าแท้ ชื่อภาษาอังกฤษว่า Cordyceps จัดว่ามีชื่อเสียงและ มีค่ามากที่สุดในบรรดาราแมลงในสกุลถั่งเช่า ได้รับการ ยอมรับว่าเป็น “สมบัติแห่งชาติอันทรงคุณค่าของสาธารณรัฐ ประชาชนจีน” เห็ดชนิดนี้จะเจริญเติบโตจากตัวอ่อนของ ผีเสื้อกลางคืนที่อยู่บนเทือกเขาหิมาลัยที่มีความสูงกว่า 3,500 เมตรจากระดับน้ําทะเลเท่านั้น ชาวเอเชียนิยมรับ ประทานเป็นยาสมุนไพรมาถั่งเช่าเป็นระยะเวลายาวนานเป็น พันปี เชื่อว่ามีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างร่างกาย และใช้เป็น ยารักษาได้สารพัดโรค การใช้เห็ดถั่งเช่ามีต้นกําเนิดในเขต ปกครองตนเองทิเบต สรรพคุณของถั่งเช่าถูกค้นพบอย่าง บังเอิญ เล่ากันว่า สมัยโบราณคนเลี้ยงสัตว์บนที่ราบสูง ทิเบตสังเกตเห็นว่า สัตว์ที่เลี้ยงไปกินเห็ดดอกเล็ก ๆ ที่มี ลักษณะคล้ายใบหญ้าเข้าไปแล้วมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็น โรค และในสัตว์ตัวที่มีอายุมาก พบว่ามีท่าทางกระฉับกระเฉง เหมือนเป็นหนุ่มสาว จึงเก็บมากินบ้าง หลังจากทานแล้ว พบว่าดีต่อสุขภาพ จัดเป็นยาบํารุงชั้นเลิศที่ร่าลือกันไป ทั่ว มีการบันทึกอยู่ในตํารับยาแผนโบราณของชาวทิเบต
(Winkler, 2008) ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์บันทึก
ส่วนประกอบสำคัญของเห็ดถั่งเช่าทิเบต
ส่วนประกอบ | ปริมาณ |
---|---|
น้ํา (Water) | 10.84 % |
ไขมัน (Fat) | 8.40 % |
โปรตีนโดยรวม (Crude protein) | 25.32 % |
เยื่อใยโดยรวม (Crude fiber) | 18.53% |
คาร์โบไฮเดรต (Carbodydrate) | 28.90% |
ดี-แมนนิทอล (D-mannitol) | 76.810 มิลลิกรัมต่อกรัม |
โพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) | 11.20% |
โปรตีน (Protein) | 25.44% |
วิตามินเอ (Vitamin A) | 0.315 มิลลิกรัมต่อกรัม |
วิตามิน บี 12 (Vitamin B 12) | 0.020 มิลลิกรัมต่อกรัม |
สังกะสี (Zinc) | 13.900 ไมโครกรัมต่อกรัม |
ทองแดง (Copper) | 2.800 ไมโครกรัมต่อกรัม |
ที่มา: ดัดแปลงจาก China Science Institute Shimyang Edible Center
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับถั่งเช่าทิเบต https://cordyl.com/ถั่งเช่าทิเบต/
ถั่งเช่าสีทองได้ชื่อว่า เป็นสมุนไพรที่นิยมมาก เพราะถือว่ามีสรรพคุณหลายอย่าง เดิมทีถั่งเช่านั้นหายากเพราะมีขายเฉพาะถั่งเช่าทิเบต แต่ปัจจุบันถั่งเช่านั้นหาทานได้ง่ายมากขึ้นเพราะมีการเพาะพันธุ์ถั่งเช่าสีทอง ซึ่งเพาะได้ในบ้านเรา และมีราคาถูกลงมาก
เห็ดถั่งเช่าสีทอง เกิดจากการเพาะเลี้ยงทั้งดอกและเส้นใยเห็ด โดยเห็ดถั่งเช่าสีทอง Cordyceps สายพันธุ์: Militaris จึงถูกเรียกว่า Cordyceps Militaris ซึ่งเป็นเห็ดตระกูลเดียวกับเห็ดถั่งเช่าทิเบต แต่คนละเหล่าพันธุ์
นอกจากถั่งเช่าสีทองจะมี สารคอร์ไดซิปิน ที่มีเยอะแล้วยังมีสารต่างๆที่จำเป็นต่อร่างกายด้วย ตามตารางดังนี้
ฤทธิ์ทางชีวภาพ | |
---|---|
Pro-sexual | เสริมสมรรถนะทางเพศ |
Anti-inflammatory | ต้านการอักเสบ |
Anti-Oxidant | anti-aging | ยับยั้งอนุมูลอิสระ / ชะลอความชรา |
Anti-tumor anti-cancer | anti-leukemic | ต้านเนื้องอก / ต้านมะเร็ง / ต้านมะเร็งเม็ดเลือดขาว |
Anti-proliferative | ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ |
Anti-metastatic | ยับยั้งการแพร่กระจายของมะเร็ง |
Immunomodulatory | ทําให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันสมดุล |
Anti-microbial | มีฤทธิ์ทําลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลชีพ อันได้แก่ ไวรัส แบคทีเรีย ริกเกตเชีย เชื้อรา เชื้อปาราสิต และโปรโตซัว |
Insecticidal | มีฤทธิ์ฆ่าแมลง |
Larvicidal | มีฤทธิ์ฆ่าหนอน |
Anti-fibrotic | ต้านการเกิดเส้นใยพังผืด |
Steroidogenic | เกี่ยวกับการสังเคราะห์ฮอร์โมนสเตียรอยด์ |
Hypoglacaemic | ลดน้ําตาลในเลือด |
Hypolipidaemic | ลดไขมันในเลือด |
Anti-angiogenic | ยับยั้งการสร้างหลอดเลือดเลี้ยงเซลล์มะเร็ง |
Anti-diabetic | ป้องกัน หรือบรรเทาอาการโรคเบาหวาน |
Anti-HIV | ต้านเชื้อเอดส์ |
Anti-malarial | ต้านโรคมาลาเรีย รือโรคไข้จับสั่น |
Anti-fatigue | ลดอาการเหนื่อยล้า |
Neuroprotective | ปกป้องระบบประสาท |
Liver-protective | ป้องกันการเสื่อมสภาพของตับ |
Reno-protective | ป้องกันการเสื่อมสภาพของไต |
Pneumo-protective | ป้องกันการเสื่อมสภาพของปอด |
Anti-influenza virus activity | ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ |
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับถั่งเช่าสีทอง https://cordyl.com/ถั่งเช่าสีทอง-2/
เห็ดถั่งเช่าหิมะ
เห็ดถั่งเช่าหิมะ หรือถั่งเช่าเกาหลี (Isaria tenuipes) เป็นถั่งเช่าที่ใช้กันมากในเครื่องสำอางค์ของเกาหลี เพราะมีสรรพคุณช่วยดูแลผิวพรรณได้เป็นอย่างดี
เห็ดถั่งเช่าหิมะเป็นรากินแมลงในช่วงไม่มีเพศ (Anamorph stage) ของเห็ดถั่งเช่า (Cordyceps) เห็ดรวมทั้งแมลงเจ้าบ้านถูกใช้เป็นยาสมุนไพรรักษา โรคต่าง ๆ และเป็นยาบํารุงในจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีมาตั้งแต่สมัยโบราณ (Takano et al., 2005) งานวิจัยจากหลายสถาบันพบว่า ในเห็ดถั่งเช่าหิมะมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ (Bioactive agents) หลายชนิด ซึ่งมีสรรพคุณเหล่านี้
* สามารถเสริมภูมิคุ้มกัน และป้องกันการเกิดโรคมาลาเรีย (Isaka et al., 2007)
* ยับยั้งและป้องกันการ เกิดเซลล์มะเร็ง (Shim etal., 2000; Sapkota et al., 2011)
* รักษาโรคซึมเศร้า (Kan et al., 2010)
* กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และป้องกันการเกิดอันตรายต่อเซลล์ตับ (Hyun et al., 2007)
* มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย (Lee et al., 2005)
* ลดคลอเรสเตอรอล และไขมันในเลือด (Lee et al., 2006)
* ลดความอ้วน (Sun et al., 2008)
* ลดฝ้า จุดด่างดํา (Park et al., 2007)
* และทําให้หน้าขาว (Gal, 2004)
* เครื่องสําอางของประเทศเกาหลี ครีมทาให้หน้าขาวที่มีส่วนผสมของเส้นใยเห็ดถั่งเช่าหิมะ ที่มา: MYCOPLUS (2012); Atomy Joy (2015)
ข้อมูลจาก https://goo.gl/1nnrwu
ถั่งเช่าจักจั่น
เชื้อราปรสิตของถั่งเช่าจักจั่นมีอยู่หลายชนิด เช่น Cordyceps cicadae, Cordyceps sobolifera, Isaria sinclairii bay Paecilomyces cicadae เป็นต้น /sario cidadge เป็นชื่อวิทยาศาสตร์ของช่วงที่ไม่มีเพศ (Anamorph) ของเห็ดถั่งเช่าจักจั่นที่ถูกอธิบายโดย Miquel ในปี 1838 หลังจากนั้นชื่อทาง วิทยาศาสตร์หลายอย่าง เช่น Isaria basili, Sphaeria Sinclairi, Isaria sinclairii bla: Paecilomyces cicadae nná síuhn (Takano et al., 2005) ดอกเห็ดของถั่งเช่าจักจั่นแต่ละสายพันธุ์จะมีลักษณะเนื้อสัมผัส สี และสัณฐาน วิทยาที่แตกต่างกัน
เห็ดถั่งเช่าจักจั่นเกิดขึ้นบนจักจั่น (Cicada flammate, Platypleura kaempferi, Cryptotympana pustulata bax Patylomia pieli) na เชื้อรา C. cicadae (เดิมใช้ P. cicadae) เข้าไปเจริญในลําตัว ต้นฤดูฝนดิน เริ่มเปียก ตัวที่แก่จะขุดดินคลานขึ้นมาใกล้ผิวดิน เพื่อจะขึ้นมาจากดินเป็น ตัวเต็มวัยหาคู่ผสมพันธุ์ต่อไป แต่ตัวที่ติดเชื้อราเชื้อจะเจริญอย่างรวดเร็วโดย การส่งเสริมจากอุณหภูมิและความชื้น งอกเส้นใยขึ้นเต็มตัวจักจัน ทําให้จักจัน ตายก่อนที่จะขึ้นจากผิวดิน และเชื้อราจะงอกดอกเห็ด (Sporophore) ขึ้นมา จากหัวจักจั่นโพล่พ้นผิวดินขึ้นมาเป็นดอกสีขาว (Xu et al., 2001)
สรรพคุณของถั่งเช่า
ถั่งเช่ามีสรรพคุณต่างๆ เช่น
- ช่วยทำให้ปอดนำออกซิเจนไปใช้ได้มากขึ้น ทำให้สดชื่น มีกำลังวังชา
- เพิ่มจำนวนอสุจิที่แข็งแรงให้มีมากขึ้น สุขภาพทางเพศดีขึ้น เหมาะทั้งกับเพศชายและหญิง
- ลดอาการอ่อนเพลีย เพิ่มพลังงานในการทำงาน ทำให้ร่างกายสดชื่น
- ควบคุมระดับโคลเลสเตอรอลให้ปกติ ระดับน้ำตาลในเลือด (เบาหวาน)
- ต่อต้านอนุมูลอิสระ และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายแข็งแรงครับ
- เสริมการทำงานของตับและไต และทำให้ตับไต แข็งแรงขึ้น
- ลดอาการของโรคภูมิแพ้ หอบ ไอ ในผู้ป่วยที่มีอาการไอ หรือเป็นภูมิแพ้สามารถใช้ถั่งเช่าเพื่อแก้อาการเหล่านั้นได้
สรรพคุณของถั่งเช่า https://cordyl.com/สรรพคุณของถั่งเช่า/
การกินถั่งเช่า
ในอดีตการรับประทานถั่งเช่ามีทั้งแบบ การชงดอกถั่งเช่าแบบชา การนำไปปรุงกับอาหาร การบดเพื่อผสมเครื่องดื่ม ในปัจจุบันสามารถหาถั่งเช่าแคปซูลมาบำรุงร่างกาย ซึ่งทานง่าย สะดวกอีกด้วย การกินถั่งเช่าแบบแคปซูล สำหรับถั่งเช่าแคปซูลมีคำแนะนำให้กินดังนี้ เรามาดูการทานถั่งเช่าแบบต่างๆ กันดีกว่า
ถั่งเช่าแบบแคปซูล
เป็นถั่งเช่าที่ผลิตเพื่อการทานที่สะดวกขึ้น สามารถเก็บและพกพาได้สะดวก โดยมีมาตรฐานการผลิต มี อย. ในปัจจุบันมีถั่งเช่าแบบแคปซูล จำหน่ายหลายยี่ห้อมาก ซึ่งผู้ที่จะเลือกทานถั่งเช่า ต้องหาข้อมูลและพิจารณา ถั่งเช่าที่จำหน่ายในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นถั่งเช่าสีทอง
วิธีรับประทานถั่งเช่าแบบแคปซูล : รับประทานก่อนอาหารเช้า 1 เม็ดและหลังอาหารเย็น 2 ชั่วโมง 1 เม็ด หรือก่อนนอน
ถั่งเช่าแคปซูลถือว่าเป็นอาหารเสริม ที่ใช้เพื่อบำรุงร่างกาย
ข้อควรระวัง
– ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยาลดน้ำตาลในเลือด
– ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยาป้องกันการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด
– ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
– ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรทานปริมาณถั่งเช่าปริมาณน้อยก่อน ถั่งเช่าช่วยลดน้ำตาลในเลือดอยู่แล้ว ถ้าทานพร้อมกัน จะทำให้ค่าน้ำตาลในเลือดต่ำจนเกินไป
– ผู้ป่วยที่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะใหม่ไม่ควรทาน
– ผู้ป่วยที่เลือดแตกตัวง่าย(ธาตุร้อน)ไม่ควรทานเยอะถั่งเช่าจะกระตุ้นการไหลของเลือด
– หญิงตั้งครรภ์
ชาถั่งเช่า
ชาถั่งเช่า ถือว่าเป็นการทานถั่งเช่าแบบเดิมที่คลาสิคมาก สมัยก่อนคนไทยหรือจีนที่นิยมทานชาถั่งเช่าก็จะเลือกทานแบบชาคือ สามารถชงดอกถั่งเช่าสีทอง แล้วทานได้ทั้งวัน แทนน้ำได้เลย ปัจจุบันก็ยังมีดอกถั่งเช่าสีทองจำหน่ายแบบชาเช่นเดียวกัน และก็ยังมีคนที่ชื่นชอบการทานถั่งเช่าแบบชาอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยเฉพาะผู้สูงวัย
ถั่งเช่าบดละเอียด
ถั่งเช่าบดละเอียดคือการนำดอกถั่งเช่ามาบดให้เป็นผง ซึ่งการทานนั้นสามารถนำมาละลายนน้ำร้อน หรือผสมในขนมหรือเครื่องดื่มเช่นโกโ้ แล้วทานเป็นเครื่องดื่มระหว่างวันได้ แต่ไม่ควรทานปริมาณมากเกินไป
และนี่การทานถั่งเช่าแบบต่างๆแล้ว หวังว่าหากท่านต้องการเลือกถั่งเช่าไว้ทานเพื่อบำรุงร่างกาย ก็สามารถเลือกได้ตามความสะดวกและความต้องการได้เลย
- ผู้ที่เริ่มต้นทานถั่งเช่าควรอ่าน https://cordyl.com/ผู้ที่เริ่มต้นทานถั่งเ/
- ข้อแนะนำการทานถั่งเช่า https://cordyl.com/ข้อแนะนำการทานถั่งเช่า/
บทความเกี่ยวกับถั่งเช่า
- รีวิวถั่งเช่าของเรา https://cordyl.com/รีวิวถั่งเช่า-100-ของถั่งเ/
- ถั่งเช่าดีจริงหรือ https://cordyl.com/ถั่งเช่าดีจริงหรือ/